ค้นคว้า เกี่ยวกับ
1. การออกเสียงภาษาอังกฤษ
2. การลงเสียงเน้นหนักในคำ
3. ระดับเสียงสูงต่ำในประโยคอย่างถูกต้อง
ศึกษาจากเอกสาร ตำรา และงานวิจัย
อ้างอิง #อย่างน้อย 3 แหล่งข้อมูล
อ้างอิง #อย่างน้อย 3 แหล่งข้อมูล
#หากนักศึกษาได้ข้อมูลจาก website ใด ๆ จะต้องทำการสรุปเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของตนเองด้วย
รูปวิดีโอเต้นเพลง one two three four five
1. การออกเสียงภาษาอังกฤษ
การออกเสียงสำคัญอย่างไร ?
บางคนคิดว่าการอออกเสียงภาษาอังกฤษทุกคำชัดถ้อยชัดคำน่าจะทำให้ฝรั่งเข้าใจ จริงๆแล้วไม่ใช่นะครับ เพราะฝรั่งไม่เคยชินการออกเสียงประเภทนั้น ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประเภท stress timed language ซึ่งหมายความว่าในภาษาอังกฤษ จะออกเสียงเน้นหนักเฉพาะคำที่ต้องการเน้น หรือแสดงความหมายสำคัญเท่านั้น คำที่ไม่สำคัญในประโยคก็จะลดการออกเสียงด้วยการพูดรวบรัดให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนมึมมำ อึมอำ กลืนคำเอาไว้ในคอ
การออกเสียงเน้นหนักของคำในประโยค (Sentence Stress) สามารถเปลี่ยนย้ายคำได้ ขึ้นอยู่กับว่าประโยคที่เราพูดนั้น เราต้องการเน้นอะไร เราก็ออกเสียงเน้นหนักในคำเหล่านั้น
ส่วนใหญ่แล้วคำที่ให้ความหมายสำคัญในประโยค (content words) ก็มักจะเป็นคำพวก คำนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ คำปฎิเสธ ส่วนคำประกอบที่ไม่สำคัญ function words ก็ได้แก่ คำสรรพนาม คำบุพบท คำนำหน้าคำนาม คำสันธาน คำกริยาช่วย ดังรายละเอียดในตารางข้างล่างนี้นะครับ
ส่วนใหญ่แล้วคำที่ให้ความหมายสำคัญในประโยค (content words) ก็มักจะเป็นคำพวก คำนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ คำปฎิเสธ ส่วนคำประกอบที่ไม่สำคัญ function words ก็ได้แก่ คำสรรพนาม คำบุพบท คำนำหน้าคำนาม คำสันธาน คำกริยาช่วย ดังรายละเอียดในตารางข้างล่างนี้นะครับ
Content Words
|
Function Words
| ||
คำกริยาแท้ Main Verbs
|
go, talk, writing
|
คำสรรพนามPronouns
|
I, you, he ,they
|
คำนาม Nouns
|
homework, dinner
|
คำบุพบทPrepositions
|
on, under, with
|
คำคุณศัพท์ Adjectives
|
big, clever
|
คำนำหน้าคำนามArticles
|
the, a, some
|
คำกริยาวิเศษณ์Adverbs
|
Quickly ,out
|
คำสันธานConjunctions
|
but, and, so
|
คำปฎิเสธ Negative Aux. Verbs
|
can't, don't, aren't
|
คำกริยาช่วยAuxiliary Verbs
|
can, should, must, have to
|
คำนิยมวิเศษณ์Demonstratives
|
this, that, those
|
คำกริยาVerb "to be"
|
is, was, am
|
คำถาม Question Words
|
when, which, where
|
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเน้นหนักคำ (word stress)
เสียงหนักเบา (Word Stress)
ภาษาอังกฤษนั้นมีความแตกต่างจากภาษาไทยตรงที่ว่า ภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาชนิด stress language เพราะมีการใช้เสียงหนักเบาทั้งในคำ (word stress) และเสียงหนักเบาในประโยค (sentence stress) เพื่อสื่อความหมาย ส่วนภาษาไทยเป็นภาษาชนิด Tone language เพราะเสียงชัดทุกตัวต่างแต่วรรณยุกต์เท่านั้น เพื่อใช้ในการสื่อความหมายเช่นเดียวกัน
เครื่องหมายแทนเสียงหนักเบา
บางเล่มใช้วงกลมแทนเสียงหนักเบา ดังนี้
วงกลมใหญ่ = เสียงหนัก (stress or strong stress)
วงกลมเล็ก = เสียงเบา (unstress or weak stress)
เสียงหนักเบาในคำ
เสียงหนักเบาในคำนั้น มีหลักเกณฑ์กว้างๆ ดังนี้
1. คำสองพยางค์ที่เป็นคำนาม หรือคำคุณศัพท์ stress ที่พยางค์แรก
'con.duct 'rec.ord
2. คำสองพยางค์ที่เป็นคำกริยา stress ที่พยางค์ที่ท้าย
con.'duct rec.'ord
3. คำที่มีสองพยางค์ขึ้นไป หากมีสระเดี่ยวเหล่านี้ /i:, 3:, ae, (เสียงอะ), (เสียงออ), u:/ ก็ให้ stress ได้เลย
ส่วนเสียง เออะ และ I (อิ) ลงเสียงเบาทุกที่ที่มีเสียงนี้
ex.'tract 'so.fa ap.'prove to.'bac.co
4. คำที่มี 3 พยางค์ขึ้นไป ควรดูที่พยางค์ท้ายว่า ลงท้ายด้วยอะไร
-ถ้าลงท้ายด้วย -al, -ate, -ble, -lly, -lar, -ment, -y, -ty จะลงเสียงหนักที่พยางค์ที่ 3 นับจากท้าย
e.co.'no.mi.cal 'ca.pa.ble 'ac.tual.ly
-ถ้าลงท้ายด้วย -ian, -ic, -ish, -sion, -tion, -tive, -tor, -ter จะลงเสียงหนักที่พยางค์ที่ 2 นับจากท้าย
e.co.'no.mic es.'tab.lish
5. เสียงหนักเบาในคำประสม
-noun + noun (2 พยางค์) จะ stress ที่พยางค์แรกนะครับ
'book case 'foot.print
-noun + noun (3 พยางค์) จะ stress ที่พยางค์แรกเช่นกัน
'news.pa.per 'post of.fice
-คำประสมที่มีคำนามอยู่ท้าย จะ stress ที่คำนามตัวท้ายนั้น
down.'stairs first -'class
-คำประสมลงท้ายด้วยคำกริยา จะ stress ที่กริยาตัวท้ายนั้น
o.ver.'look un.der.'stand
-คำประสมประเภทสรรพนามสะท้อน จะ stress ที่พยางค์หลัง
him.'self my.'self
6. คำประเภท two-word verbs จะ stress ที่พยางค์ท้าย
get 'up look 'up
7. คำ preposition และ conjunction ส่วนมากจะ stress ที่พยางค์ท้าย
a.'bout be.'hind with.'in
2.การลงเสียงเน้นหนักในคำ
การเน้นเสียงในภาษาอังกฤษทำได้โดยการทำให้เสียงดังขึ้น หรือทำให้เสียงสูงขึ้น
การเน้นเสียงของคำ
คำศัพท์แต่ละคำ จะมีการเน้นเสียงในแต่ละที่ ขึ้นอยู่กับคำ สามารถตรวจสอบได้โดยการเปิดดิกชันนารี ตัวอย่างเช่น
(ตัวใหญ่คือเสียงที่เน้น)
Option --/OP-tion/ เสียงเหมือน อ้อป-ชัน
canal -- /ca-NAL/ เสียงเหมือน คะ-แนล (ลากเสียง แนล)
deposit -- /de-PO-sit/ เสียงเหมือน ดิ-พ้อ-สิท
spaghetti --/spa-GHET-ti/ สเปอะ-เก๊ต-ทิ อันนี้แปลกหน่อย เน้นตัวที่สาม
การเน้นเสียงในประโยค
ในประโยคจะมีการเน้นเสียงหลายจุด ยกเว้นคำที่เป็น pronoun และ preposition และคำท้ายสุดของประโยคจะมีการเน้นเสียงหนักสุด ที่เรียกว่า เสียงเน้นหลัก(Primary Stress) เช่น
If you don't want to add a poll to your topic.
If you don't want to add a poll to your topic.
I don't think that control is in OPEC's hands.
อ่านเป็น I don't think that control is in OPEC's hands.
เสียงเชื่อม (Linking)
เสียงเชื่อมเป็น เสียงต่อเนื่อง ระหว่างคำที่อ่านต่อเนื่องกัน โดยเสียงสะกดของคำแรก จะออกเสียงต่อเนื่องมาเป็นเสียงพยัญชนะต้นของคำที่สอง ตัวอย่างเช่น
It's a book - จะออกเสียงเหมือน /its-sa-book/ อ่าน อิทซ์-ซะ-บุ้ค ไม่ใช่ อิทซ์-อะ-บุค
Can you add a poll? - จะออกเสียงเหมือน /can-you-add-da-poll/ อ่าน แคน-ยู-แอด-ดะ-โพล โดยคำว่า อะ จะออกเสียงเป็น ดะ เนื่องจากเสื่องเชื่อมจากคำสะกดของคำหน้า
Weekend - จะออกเสียงเหมือน /week-kend /อ่าน วีคเค็นด์ โดยคำว่า เอ็นด์ จะออกเสียงเป็น เค็นด์ เนื่องจากเสื่องเชื่อมจากคำสะกดของคำหน้า
L.A. - จะออกเสียงเป็น /L-la /อ่าน แอว เล ไม่ใช่ แอว เอ
Vineyard (ไร่องุ่นทำไวน์) - จะออกเสียงเป็น /Vin-neard/อ่าน ฝวินเนียร์ด ไม่ใช่ วายยาด
bald eagle (นกอินทรีย์หัวขาว) - จะได้ยินเป็น /bal-dea-gle/ บอว์ ทีเกิ้ล หรือ บอว์ ดีเกิ้ล
3.ระดับเสียงสูงต่ำในประโยคอย่างถูกต้อง
เสียงสูงต่ำ ท้ายประโยค
เสียงสูงต่ำท้ายประโยคขึ้นอยู่กับความหมายของประโยค โดย
ประโยคธรรมดา ลงเสียงต่ำ
I like coffee ลงเสียงต่ำที่คำว่า coffee อ่าน คอป-ฟี
ประโยคคำถาม ที่ถามว่า ใช่หรือไม่ ขึ้นเสียงสูง (รวมถึงประโยคที่เป็น tag question)
Do you like coffee? ขึ้นเสียงสูงตรงคำว่า cofee อ่าน คอป-ฟี้
ประโยคคำถาม ที่ถามหาคำตอบ ลงเสียงต่ำ
What do you like ? ลงเสียงต่ำตรงคำว่า like อ่าน ไหลค์
สำหรับประโยคเดียวกัน ที่ออกเสียงต่างกัน จะทำให้ความหมายต่างกัน เช่น
Do you like tea or coffee?
ถ้าพูด คำว่า coffee ลงเสียงต่ำ ประโยคนี้จะมีความหมายว่า "อยากได้ ชาหรือกาแฟ (โดยให้เลือกเอา)"
ถ้าพูด คำว่า coffee ขึ้นเสียงสูง ประโยคนี้จะมีความหมายว่า "อยากได้ ชาหรือกาแฟไหม (โดยถามว่า เอาหรือไม่เอา)"
อ้างอิง: aunchaleegosa.blogspot.com
:http://campus1234.blogspot.com/
สรุป การออกเสียงภาษาอังกฤษจะทำให้เรารู้ว่าคำไหนควรออกเสียงหนักเสียงเบาและระดับเสียงสูงต่ำที่ถูกต้อง เพราะจะทำให้เราสามารถออกเสียงที่ถูกต้องตามหลักของภาษาอังกฤษได้และยังสามารถนำไปสอนเด็กปฐมวัยไว้ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น